5 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนทำหลังคาบ้าน
หลังคาบ้าน เป็นส่วนประกอบสำคัญมากในการปกป้องกันบ้าน และผู้อยู่อาศัยจากสภาพภายนอก การทำหลังคาบ้านจึงมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีผลต่อความคงทน ความทนทานต่อสภาพอากาศ และความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ตั้งแต่การเลือกรูปทรงของหลังคา วัสดุที่ใช้ รวมไปถึงองศาของหลังคา สมาร์ทแฮท ได้รวบรวมข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนการทำหลังคามาให้ ดังนี้
โครงสร้างของหลังคา หรือ โครงหลังคา
โครงหลังคาเป็นส่วนสำคัญในการก่อสร้าง เพื่อให้ได้โครงสร้างที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย โครงหลังคามักจะมีลักษณะเป็นโครงเหล็ก หรือ ไม้ ที่รองรับวัสดุหลังคาเพื่อให้ได้โครงสร้างที่มั่นคงและทนทานต่อภาวะอากาศต่าง ๆ
วัสดุในการสร้างโครงหลังคา :
- โครงหลังคาสำเร็จรูป : นวัตกรรมระบบงานโครงหลังทางเลือกใหม่ของการก่อสร้าง วัสดุมีความแข็งแรง การติดตั้งรวดเร็ว ก่อสร้างได้ไว โดยผ่านการคำนวนจากโปรแกรมทางวิศกรรม
- โครงหลังคาเหล็ก : เป็นที่นิยมในการสร้างโครงหลังคา เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีความสามารถในการรองรับน้ำหนักของวัสดุหลังคาได้มาก
- โครงหลังคาไม้ : การใช้ไม้ในการสร้างโครงหลังคาเป็นที่นิยมในบางพื้นที่ เนื่องจากมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ แต่ต้องใช้วัสดุไม้ที่มีคุณภาพและมีการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพจากแรงกระแทกของสภาพอากาศ
การออกแบบโครงหลังคา : การออกแบบโครงหลังคาควรพิจารณาถึงความสอดคล้องกับโครงสร้างของบ้าน รูปแบบของหลังคา และการรองรับภาวะอากาศต่าง ๆ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความสามารถในการรองรับน้ำหนักของวัสดุหลังคา
การสร้างโครงหลังคาเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างบ้าน ควรให้ความสำคัญกับความแข็งแรง ความปลอดภัย และความทนทานต่อสภาพอากาศของโครงสร้างที่สร้างขึ้น
รูปทรงของหลังคาบ้าน
การเลือกรูปทรงหลังคาบ้านมีความสำคัญในการกำหนดสไตล์และลักษณะที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ นอกจากนี้ยังมีผลต่อการระบายน้ำฝน และความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมในที่ปลูกสร้างของบ้านอีกด้วย
รูปทรงของหลังคาบ้านที่เป็นที่นิยม
1. ทรงจั่ว : เป็นหลังคาทรงพื้นฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป ออกแบบมาเพื่อให้อากาศเย็นจากภายนอก ช่วยระบายอากาศภายในได้อย่างดี สามารถรับลมได้ดีที่สุดเมื่อวางตำแหน่งหน้าจั่ว รับกับทิศทางของลมประจำถิ่น ก่อสร้างได้ง่ายกว่าหลังคาทรงปั้นหยาและมนิลา เหมาะสำหรับ บ้านที่อยู่ในทำเลซึ่งมีลมประจำถิ่นพัดในทิศทางที่แน่นอน
2. ทรงปั้นหยา : มีความแข็งแรงกว่ารูปทรงอื่นๆ โครงสร้างทุกด้านบรรจบที่ยอดหลังคา ทำให้เกิดความมั่นคง สามารถรับลมและฝนได้จากทุกทิศทางเข้ากันได้กับตัวบ้านหลากหลายสไตล์ เหมาะสำหรับ บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งต้องการความแข็งแรงในการรับแรงลมและฝน
3. ทรงนอร์ดิก : มีความทันสมัย สไตล์สแกนดิเนเวียน ดูมีความเรียบง่ายและร่วมสมัย หลังคามีความลาดเอียงสูงระบายน้ำได้ดี ช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าแบบทรงโมเดิร์น โดดเด่นด้วยความสวยงาม เน้นช่องแสงในการรับแสงจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับ บ้านที่ต้องการความปลอดโปร่ง
4. ทรงหมาแหงน : มีความทันสมัย สไตล์โมเดิร์น ระบายอากาศได้ดีรอบทิศทาง ระบายน้ำทางเดียว ในด้านที่เอียงลาดลง ก่อสร้างง่าย ประหยัด เหมาะสำหรับ สตูดิโอ ออฟฟิตทำงาน หรือ บ้านแบบโมเดิร์น
5. ทรงมะนิลา : เป็นการรวมข้อดีของหลังคา 2 แบบ คือ ทรงจั่วและทรงปั้นหยาเข้าด้วยกัน มีความแข็งแรง มั่นคง คุ้มแดดคุ้มฝนได้ดี มีช่องระบายอากาศในยามที่ร้อนอบอ้าว เหมาะสำหรับ บ้านที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น
องศาของหลังคา
ความชันของหน้าชันหรือการลาดเอียงของหลังคา การเลือกองศาของหลังคาส่งผลต่อลักษณะการระบายน้ำฝน การระบายความร้อน และการสร้างพื้นที่เพื่อการใช้งาน เราสามารถแบ่งองศาของหลังคาเป็น กลุ่มหลักๆดังนี้
- หลังคาชันต่ำ : องศาของหลังคาที่ต่ำ ส่วนมากอยู่ในช่วง 2-10 องศา มักพบในบ้านที่มีสไตล์ที่เรียบง่ายหรือบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศที่ไม่มีฝนมาก
- หลังคาชันปานกลาง : องศาของหลังคาอยู่ในช่วง 10-30 องศา มักใช้กับบ้านที่มีสไตล์หลากหลาย และมีความทนทานต่อสภาพอากาศ
- หลังคาชันสูง : องศาของหลังคามากกว่า 30 องศา มักใช้กับบ้านที่มีสไตล์หรูหราและใหญ่โต และมักพบในการสร้างบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีฝนตกมาก การเลือกองศาของหลังคาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสไตล์ของบ้าน ความต้องการในการระบายน้ำฝน การควบคุมความร้อน และการใช้งานในระยะยาว ควรพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้หลังคาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพตามความต้องการของคุณและสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นของคุณ
วัสดุมุงหลังคา
วัสดุมุงหลังคา มีหลายประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกใช้วัสดุมุงหลังคาควรพิจารณาถึงความทนทานต่อสภาพอากาศ ความคงทน การดูแลรักษาง่าย และความเหมาะสมต่อการใช้งานและสไตล์ของบ้าน
- กระเบื้องคอนกรีตแผ่นลอน : มีลักษณะที่เหมาะสำหรับบ้านที่มีสไตล์หรูหราหรือทันสมัย มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ มีความหลากหลายในดีไซน์และสี ความลาดชันที่เหมาะกับการติดตั้ง คือ 17 องศาขึ้นไป แต่หากต้องการป้องกันการย้อนขึ้นของน้ำ องศาที่แนะนำจะอยู่ที่ 30-35 องศา มีโอกาสที่จะเกิดการย้อนกลับของน้ำน้อยมาก
- กระเบื้องคอนกรีตแผ่นเรียบ : มีลักษณะที่เหมาะสำหรับบ้านที่มีสไตล์หรูหราหรือทันสมัย มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ มีความหลากหลายในดีไซน์และสี ความลาดชันที่เหมาะกับการติดตั้ง คือ 30 องศาขึ้นไป แต่หากต้องการป้องกันการย้อนขึ้นของน้ำ องศาที่แนะนำ คือ 35-40 องศา มีโอกาสที่จะเกิดการย้อนกลับของน้ำได้น้อย
- กระเบื้องลอนคู่ : มีความทนทานต่อสภาพอากาศและเป็นทนทานต่อเชื้อรา มีความคงทนต่อแสงแดดและความร้อน ความลาดชันที่เหมาะกับการติดตั้ง คือ 10 องศาขึ้นไป ซึ่งความเหมาะสมขององศาก็สามารถขึ้นอยู่กับรูปทรงของหลังคาด้วยหลังคาทรงจั่ว : องศาที่แนะนำ 20-45 องศาหลังคาทรงปั้นหยา : องศาที่แนะนำ 30-35 องศาหลังคาทรงหมาแหงน : องศาที่แนะนำ 10-20 องศา
- หลังคาเมทัลชีท : หลังคาเหล็กแผ่นบาง เคลือบด้วยสารป้องกันสนิมนำมาขึ้นรูปลอน หลังคาเมทัลชีทสามารถนำมาใช้เป็นแผ่นหลังคา มีความคงทน ความทนทานต่อสภาวะอากาศและการใช้งานที่คุ้มค่า องศาที่แนะนำ คือ 3 องศาขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรูปทรงของหลังคา
- หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ : กระเบื้องยางมะตอยสำหรับติดตั้งหลังคา วัสดุทำจากยางคุณภาพสูงทนทานทุกสภาพอากาศ นิยมใช้กันมากในสหรัฐอเมริกา และในประเทศไทยได้มีผู้นำเข้าจากหลายประเทศ และได้รับความนิยมพอสมควร เนื่องจากวัสดุมีความยืดหยุ่นทำให้สามารถติดตั้งให้เข้ากับแบบโครงสร้างหลังคาได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบเรียบหรือโค้ง น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ไม่แตกร้าว และมีรูปแบบสี ลวดลายให้เลือกมากมาย องศาที่แนะนำ คือ 10 องศาขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรูปทรงของหลังคา
ความคุ้มค่า และ ราคา
ต้องพิจารณางบประมาณที่มีความเหมาะสมกับงานติดตั้งและวัสดุที่ใช้ รวมไปถึงการคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว, เช่น ค่าบำรุงรักษา, อายุการใช้งาน ควรเลือกใช้ผู้รับเหมาที่มีการรับประกันงาน
การเลือกหลังคาบ้านต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามความต้องการและสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญหรือช่างที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งหลังคาเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม